สวัสดีครับเพื่อนๆ อีกครั้งกับการที่มีน้องๆ มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิทยานิพนธ์ก่อนจะจบปริญญา มาขอสัมภาษณ์เพื่อนำข้อมูลไปประกอบในวิทยานิพนธ์ของตัวเอง ไม่รู้ว่าน้องเขาจะโกรธรึเปล่า จำชื่อไม่ได้ หลายวันนี้เบลอๆ มากนะครับ เพราะว่างานเอกสารเยอะมากๆ เลยครับ และกำลังมีความสับสนบางอย่างขึ้นมาในสมองสัมพันธ์กันอีก 2-3 เรื่อง ตั้งใจว่าหลังวันที่ 9 กพ.2555 นี้ จำเป็นต้องจัดการตัวผมเองโดยด่วน เพื่อให้กลับมาพร้อมทำงานที่รออยู่ข้างหน้าใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แต่ถึงจะจำชื่อน้องเขาไม่ได้ แต่ผมได้เรียกน้องเขาว่า "น้องหลุยส์" ไปเสียแล้ว น้องหลุยส์มาสัมภาษณ์เกี่ยวกับ บริษัท พีดับบลิวดี เอาท์ซอส เมเนจเมนท์ จำกัด ที่มีการดำเนินงานเข้าข่าย Social Enterprise สงสารน้องเขามากๆ เลย ผมให้สัมภาษณ์ไปแบบสุดขั้วเลย คือ ไม่เคยให้คำอธิบายไปมากขนาดนี้ ดูน้องหลุยส์ จะมึนๆ งงๆ ไปกับคำพูดของผม แต่มีเรื่องหนึ่งที่เราเห็นตรงกัน คือ การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามนิยามของบริษัท ที่เข้าข่าย Social Enterprise นั้นคงยาก เหมือนว่า ความเป็น SE ควรหลากหลาย แปรเปลี่ยน ผกผัน ไปได้ตามองค์ประกอบของแต่ละองค์กร ที่มีความใกล้เคียงกับการทำดี ทำประโยชน์ เพื่อสังคม ในรูปแบบของการบริหารทางธุรกิจ
และผมได้อธิบายเสริมไปให้น้องทราบความคิดของผมว่า SE ในความคิดของผม ต้องตตั้งำถามคนภายในองค์กรก่อน ว่าบริษัทของคุณเป็น SE สำหรับพนักงานหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ แล้วบอกคนอื่นว่าคุณ SE กับสังคม ผมให้ศูนย์เลย แต่ถ้าบริษัทคุณเป็น SE สำหรับพนักงานแล้ว จะไป SE ให้กับสังคม ก็ยิ่งถือว่าดี ดังนั้นแล้วถ้าจะให้ความเป็น SE มีในสังคมไทย ควรเป็น SE แฝงในบริษัทตััวเองก่อนครับ ถือเป็นวิวัฒนาการของการเป็นกิจการเพื่อสังคมอย่างแท้จริงครับ
ส่วนคำอธิบายอื่น ผมไม่เขียนไว้ ณ ที่นี้นะครับ เพราะมันคงจะเยอะ และอาจจะงงๆ จนมองว่าผมเป็นตัวประหลาดก็ได้
55-03-09 ดีใจมาก น้องแชมป์ติดต่อกลับมาอีกทีนะครับ ชื่อจริง ประดิษฐ์ รุ่งมรกต จากธรรมศาสตร์ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น